เมืองเก่าญี่ปุ่น บรรยากาศยุคสมัยเอโดะ
เมืองเก่าเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวหลายคนที่ชอบไปเที่ยวญี่ปุ่นมักจะเลือกไว้ในลิสต์ลำดับแรกของการเที่ยวในญี่ปุ่น ด้วยความที่เมืองยังคงความเก่าทั้งบรรยากาศ บ้านเรือน วัฒนธรรม ภายในตัวเมือง นี้จึงเป็นเหตุผลที่ผู้คนมักเลือกเมืองเก่าเอาไว้ในลิสต์การเที่ยว วันนี้เราจะพาไปชมเมืองเก่าเพื่อย้อนเวลากลับไปสู่ยุคเอโดะกัน!!!!
01 Takayama Gifu
|
ทาคายาม่า กิฟุ
|
ภูมิภาคนี้ขึ้นชื่อเรื่อง “เนื้อฮิดะ” ซึ่งขนมของที่ระลึกต่างๆ ก็นำกิมมิกนี้มาใช้ ไม่ว่าจะเป็นมันฝรั่งแท่งทอดกรอบรสเนื้อวัวฮิดะย่าง ผงโรยข้าวรสเนื้อฮิดะ เป็นต้น เป็นความแปลกใหม่และครีเอทีฟในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์
อีกทั้งยังมีร้านให้เช่าชุดยูกาตะและกิโมโนในย่านนี้ สำหรับใส่เดินเที่ยวในย่านเพิ่มความน่าจดจำไม่รู้ลืม และขอให้รู้ไว้ว่าจุดที่คุณเดินอยู่นี้ สามารถเซลฟี่ได้สวยๆ พร้อมกินของอร่อยๆ รายทาง
ผังเมืองมีความคุมโทน ทำให้บรรยากาศราวกับได้ย้อนเวลาไปเที่ยว ยิ่งกอปรกับบรรยากาศท่ามกลางขุนเขาทำให้บรรยากาศช่างกลมกล่อม นอกจาก โซนเมืองโบราณ ก็ยังมีหมู่บ้าน Hida Folk Village กลางเขาที่มีบ้านโบราณงดงามให้เข้าชม2 Magome-juku‚ Gifu
|
มาโกเมะ-จิกุ กิฟุ นี่คือทางเดินสโลปสั้นๆ ประมาณ 850 เมตร ที่พาคุณย้อนเวลาสู่บรรยากาศสมัยเอโดะ สมัยก่อนเป็นดั่งจุดแวะพักระหว่างทางเกียวโต-โตเกียว(เอโดะ) ที่ต้องเดินเท้าใช้เวลานับ 10 วัน
ทางเดินปูด้วยหิน สองข้างทางคือบ้านไม้เก่าแก่กลางศตวรรษที่ 18 เรียบง่ายแต่ลุ่มลึก ถ้าลองแปลงโฉมเครื่องแต่งกายผู้คนให้เป็นยุคก่อนและถ่ายภาพด้วยสีขาวดำ บางทีเราอาจจะแยกไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่านี่คืออดีตหรือป้จจุบัน
3 Seki-juku Mieเซกิ-จุกุ มิเอะ |
เวลาเราพูดถึง “Tokaido” หลายคนจะนึกถึงรถไฟชินคันเซ็นหรือไม่ก็โครงข่ายทางหลวงเชื่อมเมือง แต่ Tokaido ดั้งเดิมไม่ได้หมายถึงรถไฟหรือทางด่วนทั้งนั้น แต่คือเส้นทางสัญจรหลักที่เชื่อมเมืองใหญ่ระหว่างโอซาก้า-เอโดะ (โตเกียว) เข้าด้วยกัน
เมื่อมีการเดินทาง แน่นอนว่าต้องมีจุดแวะพัก ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 53 สถานี โดย Seki-juku ตั้งอยู่ในจังหวัดมิเอะ เป็นสถานีลำดับที่ 47 ด้วยความที่ตั้งอยู่จุดยุทธศาสตร์กึ่งกลางของเส้นทางพอดี จึงมีความเป็นศูนย์กลางการค้าขายและการเดินทางมาตั้งแต่ครั้งอดีต
นักท่องเที่ยวที่ Seki-juku นั้นยังไม่พลุกพล่านและเป็นชาวญี่ปุ่นซะส่วนใหญ่ ทางเดินขนาดกะทัดรัดรายล้อมไปด้วยอาคารเรือนไม้ พร้อมร้านรวงขายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่หาได้ยากจากที่อื่น มีบริการจ้างไกด์ทัวร์เดินพาชมทั่วสถานที่และบอกเล่าเกร็ดน่าสนใจทางประวัติศาสตร์
4 Kurashiki Okayama
คุราชิกิ โอคายาม่า
เชื่อเลยว่าเสน่ห์แรกพบที่คุราชิกิ (Kurashiki) ในจังหวัดโอคายาม่า (Okayama) ได้มอบให้แก่ผู้มาเยือนคือ ความผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างสไตล์ตะวันออกและตะวันตก เพราะเวลาเราพูดถึงหมู่บ้านเอโดะเก่าแก่ในญี่ปุ่น เราจะนึกถึงเฉพาะภาพบ้านไม้สองข้างทางและอะไรต่างๆ ที่มีความเป็นญี่ปู๊นญี่ปุ่น แต่นั่นไม่ใช่กับคุราชิกิ
ในสมัยก่อนที่นี่เป็นศูนย์กลางขนส่งสินค้าที่เจริญรุ่งเรืองกับต่างชาติ ก่อนถูกแปรสภาพมาเป็นย่านโบราณอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม ตึกอาคารที่เราเห็นส่วนใหญ่ อดีตถูกใช้เป็นโกดังเก็บสินค้า
เราจะเห็นรายละเอียดองค์ประกอบความเป็นตะวันตกสอดแทรกอยู่ทั่วเมือง ไม่ว่าจะเสาไฟข้างถนนแบวิกตอเรีย เสาโรมันของพิพิธภัณฑ์ศิลปะโอฮาระ (เก็บผลงานชื่อดังศิลปินชื่อดังมากมาย เช่น ปีกัสโซ) โกดังอิฐแดงที่ยังหลงเหลือ รั้วประตู ช่องทรงโค้ง ฯลฯ อารยธรรมตะวันตกเหล่านี้สอดแทรกอยู่ทั่วย่านโบราณของญี่ปุ่น เป็นอีกเสน่ห์ที่แตกต่างจากหมู่บ้านเอโดะที่อื่นมากๆ
5 Kitsuki oita
คิทซึกิ โออิตะ
เมือง Kitsuki ตั้งอยู่ในจังหวัดโออิตะ (Oita) บนเกาะคิวชู ปกติเวลาคนมาเที่ยวคิวชูมักจะไปออนเซ็นหรือสถานที่เที่ยวอย่างอื่นกัน ไม่ค่อยมีใครพูดถึง หมู่บ้านโบราณญี่ปุ่น แต่มีอยู่แห่งหนึ่งชื่อว่า “Little Kyoto of Kyushu”
หนึ่งในไฮไลท์คือเนินเขา Suya no Saka ทางเดินหินซึ่งมีความลาดชันมาก แต่กลับมอบทัศนียภาพที่สวยงามเห็นวิวได้โดยรอบ (แต่เวลาเดินขึ้นอาจเหนื่อยหน่อย)
รอบๆ ปราสาทมีทั้งบ้านซามูไรดั้งเดิมให้เข้าชม ร้านค้าขายของที่ระลึก ร้านอาหารท้องถิ่นรสชาติดี ร้านน้ำชาพร้อมสวนญี่ปุ่นเล็กๆ ฯลฯ อาคารส่วนใหญ่นี้ล้วนมีมรดกตกทอดมาตั้งแต่ยุคสมัยก่อนทั้งสิ้น
ส่วนใครที่อยากฟินกว่าเดิม เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเขามีร้านบริการให้เช่าชุดกิโมโนด้วย ถ้ากำลังมองหาเมืองที่นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน สามารถเดินเที่ยวเรื่อยเปื่อยได้สบาย ถ่ายจุดไหนมุมไหนก็มักได้ภาพสวยไม่ติดผู้คนล้านแปด แนะนำให้ลองมาเที่ยวที่เมือง
เป็นไงกันบ้างครับกับเมืองเก่าในประเทศญี่ปุ่น สวยใช่ไหมหละ!!!! รับรองนะครับใครที่ได้ไปจะได้สัมผัสบรรยากาศในยุคเอโดะอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น